ดูหนัง netflix
รีวิวหนัง Shazam! Fury of the Gods

ตลก (Comedy) ผจญภัย (Adventure) หนังฝรั่ง แอคชั่น (Action)

มาพบกับหนังอีกเรื่องทราเขากลับมาแล้วฮีโร่ตัวตึงประจำบ้านดีซี ได้โอกาสกลับมาในหนนี้ก็เหมือนได้เติมแต่งทวีคูณงานสร้างเพิ่มขึ้นแบบยกกำลังขึ้นใน “Shazam! Fury of the Gods ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า” ก่อนการเข้ามากุมบังเหียนเต็มตัวของกันน์และแน่นอนว่าชะตากรรมของมันขึ้นอยู่กับรายได้ของหนังภาคนี้ว่าอนาคตของฮีโร่พลังเวทอย่างชาแซมจะสดใสหรือกลายเป็นเพียงตำนานซูเปอร์ฮีโรที่เคยถูกสร้างเป็นหนังกันแน่จึงมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่ยิ่งใหญ่ จินตนาการที่ก้าวล้ำ และการเติบโตของตัวละครต่างๆ ที่แทบจะล้นทะลักออกมา แต่ว่ามันยังเป็นหนังฮีโร่ที่ตราตรึงใจผู้ชม

สารบัญ
1.เรื่องย่อหนัง Shazam! Fury of the Gods
2.รีวิวหนัง Shazam! Fury of the Gods
3.นักแสดงหนัง Shazam! Fury of the Gods
4.ตัวอย่างหนัง Shazam! Fury of the Gods
5.ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Shazam! Fury of the Gods

เรื่องย่อหนัง Shazam! Fury of the Gods
เป็นเรื่องราวของ บิลลี่ แบตสัน หนุ่มน้อยที่หากเขาตะโกนคำว่า “ชาแซม!” เขาจะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่หุ่นล่ำบึ้กชื่อว่า ชาแซม และในครั้งนี้เขากับเหล่าพี่น้องนักสู้ต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายตนใหม่ที่จุติมาจากเบื้องบน นั่นคือเหล่าเทพเจ้าผู้เกรี้ยวกราดที่หมายจะยึดครองอำนาจบนดาวที่เรียกว่า โลกกลับมาครั้งนี้ก็ยังพกทีมผู้สร้างชุดเดิมกลับมาด้วย นำทีมโดย “เดวิด เอฟ. แซนเบิร์ก” ที่ยังรับหน้าที่ดูแลงานสร้างหนังเรื่องนี้ พร้อมด้วย “เฮนรี่ เกย์เดน” ที่เคยปูเรื่องเขียนบทเอาไว้ในภาคก่อน สมทบด้วย “คริส มอร์แกน” มือเขียนบทจาก Fast & Furious: Hobbs & Shaw ที่มาเสริมกำลังด้านการดีไซน์บทฉากแอคชั่นตระการตา

รีวิวหนัง Shazam! Fury of the Gods
Shazam! มีพัฒนาการยิ่งขึ้น นั่นคือความโฟลว์ในการดำเนินเรื่องราวแบบฉบับของตัว หนังยังคงขับเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตัวละครนำออกมาได้อย่างตรงจุด พวกเขารู้ว่าผู้ชมต้องการอะไร พร้อมการสร้างคาแรกเตอร์ที่เป็นตัวจี๊ดและตัวตึงอย่างโดดเด่น โดยที่ยังเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้พยายามไปก็อปปี้จากเพื่อนบ้านซอยข้างๆ มา ทำให้หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากหนังวัยรุ่นดิสนีย์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หนังอาจจะมีพัฒนาการขึ้นบ้างจากหนังเมื่อช่วงยุคปี 2000s ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในเซฟโซนของหนังดิสนีย์ทั่วไป อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า บทค่อนข้างเรียบร้อยตามรอยโครงสร้างของหนังดิสนีย์ปูเอาไว้ มีสถานการณ์ต่างๆ เดินไปตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ

นักแสดงหนัง Shazam! Fury of the Gods
ตัวละครสมทบใหม่ที่เสริมเข้ามาเป็น “เฮเลน เมียร์เรน” กับ “ลูซี่ หลิว” ตัวแม่ระดับมืออาชีพ ที่พวกเขารังสรรค์ผลงานในหนังซูเปอร์ฮีโร่ออกมาได้อย่างเป็นมืออาชีพ เป็นองค์ประกอบที่ดึงความสนใจของคนดูได้ดีเช่นเดียวกับ “เรเชล ซีเกลอร์” ตัวละครเซอร์ไพรส์ที่ใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในคาแรกเตอร์ที่ทำให้คนดูหลงใหลได้ไม่ยาก การแสดงของเธอถือว่าดีใช้ได้เลย เหมือนกับสมาชิกทีมชาแซมคนอื่น ๆ ทั้ง “อดัม โบรดี้”, “รอส บัตเลอร์”, “ดี.เจ. คาทรอนา”, “เกรซ แคโรไลน์ เคอร์รี่” และ “เมแกน กู้ด” ที่โผล่มาแว่บๆ เหมือนจะดี แต่ยังมีซีนได้ไม่เด่นพอ

ทั้งนี้ในแง่ความบันเทิงนั้น Shazam! Fury of the Gods อาจจะตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี แต่หากว่ามองในด้านศักยภาพของตลาดหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่แข่งขันกันดุเดือดในยุคนี้นั้น หนังเรื่องนี้อาจจะทำได้เป็นแค่หนังคั่นเวลาเรื่องหนึ่งเท่านั้น เพราะเอาเข้าจริงๆ Shazam! ภาคนี้ยังหาจุดเด่นและไฮไลต์ดีๆ ที่ตราตรึงและน่าจดจำไม่ค่อยจะได้สักเท่าไหร่ เป็นหนังฮีโร่สนุกๆ แบบที่ดูแล้วก็ดูผ่านเลยไปที่หนังเป็นกลิ่นอายความเป็นหนังดีซีในยุคที่กำลังจะถูกล่มสลายลงไปแล้ว ก็นับว่าค่อนข้างน่าใจหายอยู่เหมือนกัน เพราะสิ่งที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมานั้น เพียงแต่เราน่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นการสานต่อในทิศทางนั้นอีกต่อไปแล้ว

ภาพรวมแล้ว Chang Can Dunk ก็จัดได้ว่าเป็นหนังดิสนีย์ที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จของหนังวัยรุ่น เรท PG ดูได้ทั้งครอบครัวตามแบบฉบับ หนังไร้พิษไร้ภัย สอดแทรกข้อคิดและแง่คิดในการใช้ชีวิตในการเติบโตของวัยรุ่น หนังแทบไม่มีอะไรใหม่เลย นอกจากจุดเด่นในการใส่วิถีความเป็นเอเชียเข้ามาเป็นประเด็นหลัก เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ขาวสะอาด ที่ยังหาจุดเด่นที่น่าจดจำไม่ค่อยได้มากนัก เป็นหนังวัยรุ่นอีกเรื่องที่ควรลอง สนุกครบรสทุกอารมณ์ อย่างไรก็ตาม รีวิวนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น ผมชอบไม่ได้แปลว่าทุกคนจะชอบ ทางที่ดีที่สุดคือทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Shazam! Fury of the Gods

ประเภท: แอคชั่น / ผจญภัย / ตลก
ผู้กำกับ: เดวิด เอฟ. แซนเบิร์ก
นำแสดงโดย: แซ็คคารี ลีวาย, เฮเลน เมียร์เรน, ลูซี่ หลิว, แอชเชอร์ แอนเจล
ความยาว: 130 นาที
กำหนดฉายในไทย: 16 มีนาคม 2023 (ในโรงภาพยนตร์)